เหล็กฉีกแบบไหนดี? รวมเบอร์เหล็กฉีกยอดนิยมในงานก่อสร้าง

วิธีเลือกเหล็กฉีกให้เหมาะกับงานก่อสร้างแต่ละประเภท

เหล็กฉีกแบบไหนดี? รวมเบอร์เหล็กฉีกยอดนิยมในงานก่อสร้าง

เหล็กฉีกคืออะไร และทำไมถึงได้รับความนิยม

เหล็กฉีก (Expanded Metal) เป็นวัสดุโลหะที่ผลิตโดยการนำแผ่นเหล็กมาฉลุและดึงให้เกิดช่องตาข่ายรูปเพชรหรือรูปหกเหลี่ยม มีคุณสมบัติแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี และมีอายุการใช้งานยาวนาน อีกทั้งยังประหยัดวัสดุเพราะใช้เหล็กเพียงแผ่นเดียวในการขึ้นรูป จึงกลายเป็นวัสดุยอดนิยมในงานก่อสร้าง งานสถาปัตย์ และงานตกแต่งภายใน–ภายนอกอาคาร

ปัจจุบัน เหล็กฉีกถูกนำมาใช้ในงานหลายประเภท เช่น

  • ทำพื้นทางเดิน แผ่นกันลื่น ตามโรงงานและคลังสินค้า
  • ทำรั้วหรือแผงกั้น เพิ่มความปลอดภัยและความเป็นระเบียบ
  • งานฝ้า–เพดาน และผนังตกแต่ง ช่วยเพิ่มดีไซน์ที่สวยงามและทันสมัย
  • งานกรองและระบายอากาศ เช่น หน้ากากเครื่องจักร

การเลือก "เหล็กฉีกแบบไหนดี" จึงขึ้นอยู่กับ เบอร์เหล็กฉีก (Mesh Size) ความหนา และการใช้งานจริงเป็นหลัก

เบอร์เหล็กฉีกมีกี่แบบ? ความหมายของเบอร์ที่ควรรู้

การเรียก เบอร์เหล็กฉีก มักใช้รหัสที่บ่งบอกขนาดช่องและความหนา เช่น XS-31, XS-42, XS-51 เป็นต้น แต่ละเบอร์มีความแตกต่างที่สำคัญดังนี้

  • เบอร์เล็ก (เช่น XS-31, XS-32)
    ช่องตะแกรงถี่ เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียด เช่น ฝ้า เพดาน หรือผนังตกแต่ง
  • เบอร์กลาง (เช่น XS-42, XS-43)
    ขนาดช่องมาตรฐาน เหมาะกับงานพื้นทางเดิน รั้วบ้าน รั้วโรงงาน
  • เบอร์ใหญ่ (เช่น XS-51, XS-62)
    ช่องกว้าง แข็งแรง ทนทาน มักใช้ในงานพื้นโรงงานที่รับน้ำหนักมาก หรือใช้กับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่

การเลือกเบอร์เหล็กฉีกต้องพิจารณาทั้ง ช่องตาข่าย ความหนา และน้ำหนักเหล็ก เพื่อให้เหมาะสมกับงานที่ใช้งานจริง

จุดเด่นของเหล็กฉีกเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น

  • แข็งแรงแต่เบา – เหล็กฉีกผลิตจากแผ่นเหล็กทั้งแผ่นที่ผ่านการฉลุและดึงจนเกิดเป็นช่องตาข่าย จึงคงความแข็งแรงของโครงสร้างเดิมไว้ได้อย่างดี แต่มีน้ำหนักเบากว่าวัสดุที่ต้องเชื่อมหลายชิ้นเข้าด้วยกัน ทำให้ง่ายต่อการขนย้ายและติดตั้ง
  • ประหยัดวัสดุ – ในกระบวนการผลิตเหล็กฉีกจะไม่มีเศษเหลือจากการตัดทิ้ง แตกต่างจากการทำตะแกรงเหล็กเชื่อมหรือการเจาะรู ซึ่งมักจะมีเศษเหล็กที่สูญเปล่า จึงถือว่าเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและลดต้นทุนการผลิตได้
  • ปลอดภัย กันลื่นได้ดี – พื้นผิวของเหล็กฉีกมีลักษณะนูนเล็กน้อยจากการดึงแผ่นเหล็ก ทำให้มีคุณสมบัติกันลื่นในตัว จึงนิยมใช้ทำพื้นทางเดินบันไดเหล็ก ทางลาด หรือพื้นโรงงานที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
  • ใช้งานได้หลากหลาย – เหล็กฉีกไม่ได้ใช้เฉพาะงานก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์งานตกแต่งสถาปัตยกรรม เช่น ฝ้า เพดาน รั้วบ้าน ผนังกั้น หรือแม้แต่ชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์บางประเภท ด้วยดีไซน์ของช่องตาข่ายที่สามารถเลือกได้หลายขนาด ทำให้เข้ากับทั้งงานโครงสร้างและงานดีไซน์สมัยใหม่
  • ติดตั้งง่าย ปรับแต่งสะดวก – เนื่องจากเป็นแผ่นเหล็กฉีกเพียงชิ้นเดียว ไม่มีรอยต่อ การตัดตามขนาดหรือการเชื่อมติดตั้งจึงทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ช่วยประหยัดเวลาในการทำงานของช่าง และยังลดโอกาสเกิดความผิดพลาดหน้างานได้อีกด้วย

การเลือกเหล็กฉีกแบบไหนดีให้เหมาะกับงาน

  1. งานพื้นทางเดิน / พื้นกันลื่น
    สำหรับงานที่ต้องรับน้ำหนักบ่อย ๆ เช่น ทางเดินในโรงงาน ทางลาด หรือพื้นชั้นลอย ควรเลือก เหล็กฉีกเบอร์ใหญ่ที่มีความหนาสูง (เช่น XS-51, XS-62) เพราะมีโครงสร้างแข็งแรง รับแรงกดได้ดี และพื้นผิวของเหล็กฉีกมีลักษณะนูนเล็กน้อย ช่วยกันลื่นได้ในตัว ลดอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความชื้นหรือน้ำมันหกบ่อย ๆ

  2. งานรั้วและแผงกั้น
    หากใช้สำหรับงานรั้วบ้าน รั้วโรงงาน หรือแผงกั้นเขตก่อสร้าง เหล็กฉีกที่เหมาะสมคือ เบอร์กลาง (เช่น XS-42, XS-43) ที่มีความแข็งแรงเพียงพอ ใช้งานทนทาน แต่ยังมีราคาที่คุ้มค่า ติดตั้งง่าย และสามารถทาสีหรือตกแต่งเพิ่มเติมได้ตามต้องการ เหล็กฉีกแบบนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ขณะเดียวกันก็ดูสวยงามและเป็นระเบียบ

  3. งานตกแต่ง / ฝ้า / เพดาน
    งานตกแต่งอาคารหรือบ้านพักอาศัย เช่น ฝ้า เพดาน ผนังกั้น หรือทำเป็นฉากตกแต่ง ควรเลือก เหล็กฉีกเบอร์เล็ก ช่องถี่ (เช่น XS-31, XS-32) เพราะมีน้ำหนักเบา ดูสวยงาม และให้ความรู้สึกโปร่ง ไม่ทึบตัน ช่วยเพิ่มลูกเล่นด้านดีไซน์ให้กับสถาปัตยกรรม ทั้งยังสามารถพ่นสี เคลือบ หรือทำสีพิเศษได้ตามต้องการ เหมาะกับงานที่ต้องการทั้งความสวยและความปลอดภัย

  4. งานโรงงาน / อุตสาหกรรม
    สำหรับพื้นที่กลางแจ้งหรือโรงงานอุตสาหกรรมที่เสี่ยงต่อการกัดกร่อน ควรเลือก เหล็กฉีกแบบชุบกัลวาไนซ์ (Galvanized Expanded Metal) เพราะเคลือบสารกันสนิมไว้ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต ช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาบ่อย ๆ เหมาะกับงานที่ต้องการความทนทานสูง เช่น โรงงานเคมี โรงงานอาหาร และโครงสร้างภายนอกอาคาร

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเหล็กฉีก

Q1: เหล็กฉีกกับตะแกรงเหล็กต่างกันอย่างไร?
A: เหล็กฉีกผลิตจากการดึงแผ่นเหล็กให้เกิดช่องตาข่าย ส่วนตะแกรงเหล็กมักเป็นการเชื่อมเส้นเหล็กเข้าด้วยกัน เหล็กฉีกจึงแข็งแรงกว่าในน้ำหนักที่เบากว่า


Q2: เหล็กฉีกเป็นสนิมไหม?
A: หากเป็นเหล็กฉีกแบบธรรมดาอาจเกิดสนิมได้ ควรเลือกแบบชุบกัลวาไนซ์หรือพ่นสีป้องกันสนิมสำหรับใช้งานกลางแจ้ง


Q3: เหล็กฉีกใช้กับงานตกแต่งบ้านได้หรือไม่?
A: ได้ เหล็กฉีกเบอร์เล็กและกลางนิยมใช้กับงานฝ้า ผนัง รั้ว หรือทำเป็นแผงกันตกแต่งบ้านให้ดูโมเดิร์น


Q4: ราคาของเหล็กฉีกขึ้นอยู่กับอะไร?
A: ขึ้นอยู่กับเบอร์เหล็ก ความหนา ชนิดการเคลือบ และปริมาณที่สั่งซื้อ หากสั่งจากโรงงานผู้ผลิตโดยตรง ราคาจะคุ้มค่ากว่า


Q5: ซื้อเหล็กฉีกที่ไหนดี?
A: แนะนำเลือกซื้อจากบริษัทที่เชื่อถือได้ เช่น บริษัท ยัวร์ คอนเนค เมทัล เวิร์ค จำกัด ที่มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย พร้อมบริการหลังการขาย


การเลือก เหล็กฉีกแบบไหนดี ขึ้นอยู่กับงานที่นำไปใช้ หากเป็นงานพื้นหรือโรงงานควรเลือกเบอร์ใหญ่และหนาเพื่อความแข็งแรง ส่วนงานรั้วหรือฝ้าเพดานเลือกเบอร์กลาง–เล็กเพื่อความสวยงามและปลอดภัย ที่สำคัญควรเลือกซื้อจากผู้ผลิตโดยตรงเพื่อให้มั่นใจได้ในคุณภาพและราคาที่คุ้มค่า

หากคุณกำลังมองหา เหล็กฉีกคุณภาพสูง สำหรับงานก่อสร้างหรืองานตกแต่งทุกประเภท เลือก บริษัท ยัวร์ คอนเนค เมทัล เวิร์ค จำกัด (YC-MW) ผู้เชี่ยวชาญด้านเหล็กและโลหะรูปพรรณครบวงจร พร้อมให้คำปรึกษาและบริการจัดส่งทั่วประเทศ

สนใจ เกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับ ตะแกรงฉีก ติดต่อ บริษัท ยัวร์ คอนเนค เมทัล เวิร์ค จำกัด ได้ทุกช่องทาง

31/560 หมู่1 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 12110 ( สำนักงานใหญ่ )
โทร. 02-577-7061 / 02-577-7063 ( ออฟฟิศ ) ( 08.30 - 17.00 น. )
แฟกซ์ 02-577-7062
Email : ycmw.asia@gmail.com

 *** รับปรึกษาและออกแบบผลิตภัณฑ์ ***

ADD LINE ได้เลย !!!

  

064-985-0914

ตะแกรงเหล็กฉีก

064-958-0044

ตะแกรงเหล็กฉีก

092-636-2561

 

โทรศัพท์ : 02-577-7061 , 02-577-7063 (ออฟฟิศ)

Visitors: 984,172