เหล็กตะแกรงฉีก รองรับน้ำหนักได้กี่กิโล?
รวมข้อมูลการใช้งานจริง

ตารางรับน้ำหนักเหล็กตะแกรงฉีก เลือกสเปคอย่างไรให้ปลอดภัยต่อการใช้งาน

เหล็กตะแกรงฉีก รองรับน้ำหนักได้กี่กิโล? รวมข้อมูลการใช้งานจริง

ไขข้อสงสัยยอดฮิต "เหล็กตะแกรงฉีก" รับน้ำหนักได้จริงแค่ไหน?

หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดสำหรับผู้ที่สนใจใช้งาน เหล็กตะแกรงฉีก (Expanded Metal) ไม่ว่าจะเป็นวิศวกร ผู้รับเหมา หรือเจ้าของบ้านที่ต้องการวัสดุสำหรับต่อเติม คือคำถามที่ตรงไปตรงมาที่สุด: "มันรองรับน้ำหนักได้กี่กิโลกรัม?" นี่คือคำถามที่สำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับ "ความปลอดภัย" ของผู้ใช้งานและทรัพย์สิน

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุโลหะ บทความนี้จะไม่ได้ให้คำตอบคุณเพียงตัวเลขเดียว แต่จะเจาะลึกถึง "ปัจจัยทั้งหมด" ที่กำหนดความสามารถในการรับน้ำหนักของเหล็กตะแกรงฉีก เพื่อให้คุณสามารถเลือกสเปคที่เหมาะสมกับงานของคุณได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัย และคุ้มค่าที่สุด พร้อมข้อมูลการใช้งานจริงที่รวบรวมมาจากประสบการณ์ตรง

ทำไม "เหล็กตะแกรงฉีก" ไม่มีคำตอบเดียวว่ารับน้ำหนักได้เท่าไหร่?

หากมีคนบอกคุณว่า "เหล็กตะแกรงฉีกรุ่นนี้ รับน้ำหนักได้ 500 กิโลกรัม" โดยไม่ถามรายละเอียดงานของคุณเลย นั่นคือข้อมูลที่อันตรายอย่างยิ่ง

ความจริงคือ ไม่มีคำตอบที่เป็นตัวเลขเดียวตายตัว สำหรับคำถามนี้ ความสามารถในการรับน้ำหนักของเหล็กตะแกรงฉีกขึ้นอยู่กับปัจจัยร่วมหลายประการ การละเลยปัจจัยเหล่านี้อาจนำไปสู่การเลือกใช้วัสดุที่ผิดสเปค สิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ หรือเลวร้ายที่สุดคือการเกิดอุบัติเหตุจากการพังทลาย

เหล็กตะแกรงฉีกถูกผลิตขึ้นมาหลายร้อยสเปค ตั้งแต่รุ่นที่บางเบาสำหรับงานตกแต่ง ไปจนถึงรุ่นที่หนาและแข็งแกร่งสำหรับงานอุตสาหกรรมหนัก ดังนั้น การทำความเข้าใจปัจจัยต่อไปนี้จึงเป็นหัวใจสำคัญ

5 ปัจจัยหลัก กำหนดความสามารถในการรับน้ำหนักของเหล็กตะแกรงฉีก

การที่คุณจะทราบได้ว่าเหล็กตะแกรงฉีกที่คุณต้องการนั้นรับน้ำหนักได้เพียงพอหรือไม่ ต้องพิจารณาองค์ประกอบ 5 ข้อนี้ร่วมกันเสมอ

1. รุ่นและสเปคของตะแกรง (Model/Series)

นี่คือปัจจัยที่สำคัญที่สุด เหล็กตะแกรงฉีกจะมีการระบุรุ่น เช่น รุ่น XS-31, XS-41, XS-51, XS-61, XG-21 (ซึ่งทาง ยัวร์ คอนเนค เมทัล เวิร์ค มีจำหน่ายครบทุกรุ่น) ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้ตั้งขึ้นมาลอยๆ แต่เป็นการบ่งบอกถึง:

  • ความหนาของแผ่นเหล็ก (Thickness): ยิ่งหนา ยิ่งแข็งแรง
  • ขนาดของสัน (Strand Width): สันที่กว้างกว่าจะรับแรงได้มากกว่า
  • ขนาดของรู (Mesh Size - SWD x LWD): ขนาดรูที่ต่างกันส่งผลต่อความแข็งแรงโดยรวม

ตัวอย่างเช่น เหล็กตะแกรงฉีกรุ่น XS-61 ที่มีความหนา 6.0 มม. และสันกว้าง 6.0 มม. ย่อมรับน้ำหนักได้มากกว่ารุ่น XS-31 ที่หนาเพียง 1.6 มม. และสันกว้าง 2.0 มม. อย่างเทียบกันไม่ได้เลย

2. วัสดุที่ใช้ผลิต (Material)

แม้จะเรียกรวมๆ ว่า "เหล็ก" แต่ตะแกรงฉีกสามารถผลิตได้จากวัสดุหลากหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติความแข็งแรงต่างกัน:

  • เหล็กแผ่นดำ (SS400): เป็นวัสดุมาตรฐานที่นิยมใช้ที่สุด มีความแข็งแรงสูง รับน้ำหนักได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับงานโครงสร้างทั่วไป แต่ต้องทำสีหรือชุบกัลวาไนซ์เพื่อป้องกันสนิม
  • สแตนเลส (SUS304/316): มีความแข็งแรงสูงเช่นกัน และมีจุดเด่นคือทนทานต่อการกัดกร่อนและสนิมได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับงานในอุตสาหกรรมอาหาร โรงงานเคมี หรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
  • อลูมิเนียม: มีน้ำหนักเบามากและไม่เป็นสนิม แต่โดยทั่วไปจะรับน้ำหนักได้น้อยกว่าเหล็กและสแตนเลสที่ความหนาเท่ากัน เหมาะสำหรับงานที่ต้องการลดน้ำหนักโครงสร้าง หรืองานตกแต่ง

3. "ระยะพาด" (Span) หรือระยะห่างของโครงสร้างรองรับ

นี่คือ "กับดัก" ที่คนส่วนใหญ่มองข้าม!

"ระยะพาด" คือ ระยะห่างระหว่างคาน หรือโครงเหล็กที่ใช้รองรับแผ่นตะแกรงฉีก ลองนึกภาพแผ่นไม้กระดาน: ถ้าคุณวางไม้แผ่นเดียวกันพาดระหว่างเก้าอี้ 2 ตัวที่ห่างกัน 1 เมตร คุณอาจจะยืนบนแผ่นไม้นั้นได้ แต่ถ้าคุณนำไม้แผ่นเดิมไปพาดระหว่างตึก 2 หลังที่ห่างกัน 5 เมตร แผ่นไม้จะหักทันทีที่คุณเหยียบ

เหล็กตะแกรงฉีกก็เช่นกัน ยิ่งระยะพาด (Span) กว้างเท่าไหร่ ความสามารถในการรับน้ำหนักก็จะยิ่ง "ลดลง" อย่างมหาศาลเท่านั้น ในทางกลับกัน หากคุณมีโครงสร้างรองรับที่ถี่ (Span แคบ) ตะแกรงรุ่นเดียวกันก็จะรับน้ำหนักได้มากขึ้น

4. ประเภทของน้ำหนัก (Type of Load)

น้ำหนัก 500 กิโลกรัม ไม่ได้มีค่าเท่ากันเสมอไป ขึ้นอยู่กับว่ามัน "วาง" อย่างไร:

  • น้ำหนักแผ่กระจาย (Uniformly Distributed Load - UDL): คือน้ำหนักที่กระจายตัวทั่วทั้งพื้นผิวตะแกรง เช่น กองวัสดุ หิมะ หรือคนจำนวนมากที่ยืนเต็มพื้นที่ การรับน้ำหนักแบบนี้ ตะแกรงจะรับแรงได้ดีกว่า
  • น้ำหนักเฉพาะจุด (Point Load): คือน้ำหนักที่กดลง ณ จุดใดจุดหนึ่ง เช่น ขาโต๊ะ ขาเครื่องจักร ล้อรถเข็น หรือรอยเท้าของคนคนเดียว การรับน้ำหนักแบบนี้จะสร้างแรงเค้นต่อตะแกรงสูงกว่ามาก

โดยทั่วไป การออกแบบทางเดิน (Walkway) จะต้องคำนึงถึง Point Load (รอยเท้าคน) ในขณะที่การออกแบบชั้นวางของ (Shelving) จะคำนึงถึง UDL (ของที่วาง)

5. ทิศทางการติดตั้ง (Installation Orientation)

เหล็กตะแกรงฉีกมี "ลาย" หรือ "ทิศทาง" ของตาตะแกรง (LWD และ SWD) การวางแผ่นตะแกรงให้ถูกทิศทางมีผลต่อการรับน้ำหนัก โดยทั่วไป ควรวางด้าน LWD (ด้านทะแยงยาว) ให้พาดขวางกับโครงสร้างรองรับ เพื่อให้ตะแกรงสามารถรับน้ำหนักได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุด หากวางผิดทิศทาง ความสามารถในการรับน้ำหนักอาจลดลงอย่างมาก

 

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับเหล็กตะแกรงฉีก

Q1: เหล็กตะแกรงฉีก กับ ตะแกรงเหล็กเกรตติ้ง (Grating) แบบไหนรับน้ำหนักดีกว่า?
A1: โดยทั่วไป หากเทียบที่น้ำหนักเหล็กเท่ากัน ตะแกรงเหล็กเกรตติ้ง (ที่เป็นเหล็กแบนเชื่อมติดกัน) มักจะถูกออกแบบมาเพื่อการรับน้ำหนักที่สูงกว่าและมีค่าการแอ่นตัวที่น้อยกว่าในระยะพาดไกลๆ แต่เหล็กตะแกรงฉีกมีข้อดีคือเป็นแผ่นชิ้นเดียว ไม่มีรอยเชื่อม ทำให้ทนทาน ไม่แตกหักง่าย และมีน้ำหนักเบากว่าเมื่อเทียบกับความแข็งแรงที่ใกล้เคียงกัน ทั้งยังมีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าในหลายๆ สเปค


Q2: เหล็กตะแกรงฉีก SS400 (เหล็กดำ) ใช้งานภายนอกได้ไหม? ต้องป้องกันสนิมอย่างไร?

A2: ใช้ได้ แต่ต้องผ่านกระบวนการป้องกันสนิมก่อน เหล็ก SS400 โดยธรรมชาติจะเป็นสนิมได้ง่าย วิธีที่นิยมที่สุดคือ การชุบกัลวาไนซ์ (Hot-Dip Galvanized) ซึ่งจะเคลือบผิวเหล็กด้วยสังกะสี ทำให้ทนทานต่อสภาพอากาศและความชื้นได้นานหลายสิบปี หรืออีกวิธีคือการพ่นสีกันสนิมคุณภาพสูง ซึ่งอาจต้องมีการบำรุงรักษาในระยะยาว


Q3: การติดตั้งเหล็กตะแกรงฉีก ต้องใช้อุปกรณ์อะไรยึดบ้าง?

A3: การติดตั้งสามารถทำได้หลายวิธี 1) การเชื่อม: คือการเชื่อมแผ่นตะแกรงติดกับโครงสร้างรองรับโดยตรง เป็นวิธีที่แข็งแรงที่สุด 2) การใช้คลิปล็อค (Saddle Clip): เป็นอุปกรณ์ยึดมาตรฐานที่ช่วยให้ติดตั้งและรื้อถอนได้ง่าย โดยไม่ต้องเชื่อม ทำให้ไม่ทำลายผิวเคลือบกัลวาไนซ์ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเรียบร้อยหรืองานในพื้นที่เสี่ยงไฟไหม้


Q4: ทำไมต้องเผื่อ "ค่าความปลอดภัย" (Safety Factor) ในการคำนวณ?

A4: ค่าความปลอดภัย คือ การออกแบบให้โครงสร้างรับน้ำหนักได้ "มากกว่า" น้ำหนักใช้งานจริง เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน เช่น การกระแทก หรือการใช้งานที่น้ำหนักเกินกว่าที่ประเมินไว้ในตอนแรก โดยทั่วไปงานวิศวกรรมจะมีการเผื่อค่านี้ไว้เสมอ เช่น หากคำนวณว่าใช้งานจริง 300 กก./ตร.ม. อาจต้องเลือกสเปคที่รับได้จริง 450-600 กก./ตร.ม. (ขึ้นอยู่กับมาตรฐานการออกแบบ)


 

เลือกเหล็กตะแกรงฉีก เลือกความปลอดภัยที่คำนวณได้

การเลือก เหล็กตะแกรงฉีก ไม่ใช่แค่การเลือก "ลาย" หรือ "ราคา" แต่คือการเลือก "ความปลอดภัย" หัวใจสำคัญคือการทำความเข้าใจว่าความสามารถในการรับน้ำหนักไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวตะแกรงเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับ รุ่น, วัสดุ, ระยะพาด, ประเภทของน้ำหนัก และการติดตั้ง

หากคุณไม่แน่ใจว่าโครงการของคุณควรใช้เหล็กตะแกรงฉีกรุ่นไหน หรือต้องการคำนวณสเปคที่ปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุด อย่าลังเลที่จะติดต่อเรา เรายินดีให้คำปรึกษาฟรี เพื่อให้คุณได้วัสดุที่ "ถูกต้อง" กับงาน และ "ปลอดภัย" สำหรับผู้ใช้งานทุกคน

 


 

สนใจ เกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับ ตะแกรงฉีก ติดต่อ บริษัท ยัวร์ คอนเนค เมทัล เวิร์ค จำกัด ได้ทุกช่องทาง

31/560 หมู่1 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 12110 ( สำนักงานใหญ่ )
โทร. 02-577-7061 / 02-577-7063 ( ออฟฟิศ ) ( 08.30 - 17.00 น. )
แฟกซ์ 02-577-7062
Email : ycmw.asia@gmail.com

 

 

 

 *** รับปรึกษาและออกแบบผลิตภัณฑ์ ***

ADD LINE ได้เลย !!!

  

064-985-0914

ตะแกรงเหล็กฉีก

064-958-0044

ตะแกรงเหล็กฉีก

092-636-2561

 

 

Visitors: 1,002,188